1.Google Adwords
บริการของ Google Adwords อยู่ในรูปแบบของ PPC (Pay Per Click) หรือการจ่ายเงินเมื่อมีการคลิ๊กเข้าไปดูโฆษณาของเราเท่านั้น ถ้าไม่มีคนคลิ๊กโฆษณาเราก็ไม่เสียเงินใดๆทั้งสิ้น ทำให้ผู้ที่คลิ๊กเข้าไปนั้น ต้องสนใจสินค้าหรือบริการของเราแน่นอน ถึงจะอ่านข้อความโฆษณาของเราแล้วคลิ๊กเข้าไปเยี่ยมชมเว็บไซต์ของเราได้ โฆษณาจะขึ้นแสดงอยู่ทางด้านขวาของผลการค้นหา หรือที่เรียกว่า Sponser Link (Link ของผู้สนันสนุน) ในปัจจุบัน Google Adwords สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกแต่ละจังหวัดได้แล้ว เราสามารถกำหนดการแสดงผลของโฆษณาให้อยู่ที่ กรุงเทพ หรือ นครราชสีมา ได้อีกทั้งยังสามารถกำหนดเวลาการแสดงผลได้อีกด้วย เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ดีสุดๆ
2.รูปแบบ PPC อื่นๆ นอกจาก Google Adwords
นอกจาก Google ในไทยก็จะมี BumQ และ AdYim ค่าโฆษณาก็จะถูกลงมาหน่อย อาจจะคลิ๊กละ 1 บาทหรือ 2 บาท แต่ประสิทธิภาพในการเข้าถึงเป้าหมายก็จะลดลงด้วยเช่นกัน ในการทำโฆษณารูปแบบ PPC ในประเทศไทย โฆษณาก็จะแสดงผลในเว็บไซต์ที่เป็นพันธมิตรของผู้ให้บริการอย่าง BumQ และ AdYim ซึ่งจะนำข้อความโฆษณาหรือ Banner ของเราไปติดลงในเว็บไซต์พันธมิตรนั้นเองครับ
3.Banner
ลงโฆษณาโดยใช้ Banner ไปลงโฆษณาตามเว็บต่างๆ ที่มีกลุ่มเป้าหมายของเรา เช่น เว็บที่คุยเรื่องการท่องเที่ยวต่างๆ
4.Social Network
การทำการตลาดรูปแบบของ Social Network ปัจจุบันการทำโฆษณาในลักษณะนี้ สามารถเข้าถึงผู้คนได้หลากหลาย Social Network ก็คือ สังคมออนไลน์ เช่น Twistter, Facebook และอื่นๆ โดยทั่วๆไปแล้ว การทำโฆษณาลักษณะนี้นิยมใช้ในการสร้างแบรนเนม อิทธิพลของ Social Network จะทำให้เกิดการบอกกันบากต่อปากของผู้พบเห็น เราเรียกว่า Viral Marketing หรือการตลาดที่แพร่หลายเหมือนไวรัส นั้นเองครับ ซึ่งจะทำให้มีคนรู้จักหรือพบเห็นบริการของเราได้เองโดยอัตโนมัติจนเกิดแบรน เนมขึ้นมานั้นเอง
5.Blog Marketing ,Web Marketing (ทำเว็บไซต์เอง)
การสร้าง Blog จากของฟรีๆ อย่างเช่น Blogger Blog เป็นระบบที่สามารถติดต่อกันระหว่างผู้เขียนและผู้อ่านผ่านระบบ Comment จึงสามารถเกิดสังคมออนไลน์ขนาดย่อมได้ เราอาจจะเขียนเรื่องที่ตัวเองสนใจและใส่ Banner โฆษณาลงไปใน Blog ก็เป็นหนทางที่ดีไม่ใช่น้อยเลยที่จะสามารถทำการตลาดได้
6.Video Marketing
ทำโดยการเผยแพร่กิจกรรมต่างที่จะนำเสนอในรูปแบบของไฟล์วีดีโอผ่านทาง Internet
แผนการตลาดผ่าน Youtube จุดมุ่งหมาย คือ อิมเมจ ภาพลักษณ์ และ แบรนด์สินค้า (บริการ)
7.Email Marketing
Email Marketing ไม่ใช่การ Spam แตกต่างกันตรงที่ผู้รับ ต้องเกิดความสนใจและกรอกรับข้อมูลข่าวสาร จึงทำให้เราสามารถส่งข่าวสารไปให้ผู้รับผ่านทาง Email ได้ ส่วนที่สำคัญที่สุดของการทำ Email Marketing ก็คือการได้ฐานข้อมูลของลูกค้า และเราก็จะสามารถส่งสินค้าหรือบริการต่างๆ ให้ผู้ที่ติดตามได้นั้นเอง
8.Post ฟรี ลงประกาศฟรี
คือการไปขอลงประกาศตามเว็บไซต์ที่เปิดให้สามารถลงประกาศได้ฟรี อย่างเช่นเว็บ pantipหรือ thai2hand เหล่านี้ เราสามารถนำสินค้าหรือบริการไปลงประกาศตามหมวดหมู่ได้ครับ
9.ทำ Affiliate Program
อธิบายง่ายๆ ก็คือการหาลูกค้าให้กับทางเว็บแล้วได้ค่าคอมมิชชั่น เช่น จัดทำเว็บแล้วขายโปรแกรมทัวร์ต่างๆผ่านทางเว็บของผู้จัดทำ
10.การทำ Search Engine Optimization (SEO)
พูดง่ายคือการทำให้เว็บเราแสดงผลต้นๆ(หน้าแรก)ในการแสดงผลในการค้นหา เช่น ถ้าเราทำคีย์ บริษัททัวร์ เมื่อเราคีย์คำว่าบริษัททัวร์ ในช่องแสดงผลการค้นหา เราจะต้องเจอเว็บไซต์ของเราใน 10 ลำดับแรกของการค้นหา ก็จะถือว่าการทำ SEO ประสบผลสำเร็จ ข้อดีคือประหยัด แสดงผลได้ยาว ข้อเสียคือช้าต้องวิเคราะห์และมีขั้นตอนหลายอย่างในการทำ (SEO)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น