การทำธุรกิจในสังคมยุคเวิลด์ไวด์เว็บ ‘อีเมล์’ หรือไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์จัดเป็นเครื่องมือที่สำคัญมากของผู้ประกอบการและ นักการตลาด เพราะเจ้าสิ่งนี้มีประโยชน์นานัปการและสามารถส่งเสริมวิธีการทำธุรกิจให้ ง่ายดายมากขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก อีเมล์จึงได้รับความนิยมอย่างรวดเร็วและกำลังคืบคลานเข้ามาแทนที่วิธีการขาย ตรงผ่านทางการส่งจดหมายที่ติดตราอากรสแตมป์ในไม่ช้า ผู้ประกอบการหลายรายเข้าใจผิด และหว่านส่งอีเมล์ไปแบบไร้ซึ่งจุดประสงค์และศิลปะในการสื่อสาร จึงทำให้อีเมล์เหล่านั้นกลายเป็นขยะบนโลกออนไลน์และสร้างความน่ารำคาญให้ผู้ คนส่วนใหญ่เป็นจำนวนมาก การจะใช้อีเมล์ทำธุรกิจให้ประสบผลสัมฤทธิ์ในยุคปัจจุบันจึงต้องอาศัยเทคนิค บวกกับศิลปะการสื่อสารมากขึ้นกว่าในอดีตที่ใช้เนื้อหาเป็นตัวนำแต่เพียง อย่างเดียว โดยเทคนิควิธีการใช้อีเมล์เพื่อการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จมีเคล็ดลับ ง่ายๆดังต่อไปนี้
ต้องรู้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่ชัดเจนก่อน
ถ้าจะใช้อีเมล์ในการทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องรู้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่ชัดเจนของตนเองเสียก่อน เพราะจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารได้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของตนเองมาก ที่สุด ซึ่งจะทำให้ได้รับปฎิกิริยาตอบกลับมาในเวลาที่รวดเร็วจนนำไปสู่การตัดสินใจ ซื้อสินค้าในขั้นตอนสุดท้ายและจะถือว่าเป็นการปิดการขายโดยสมบูรณ์แบบอย่าง แท้จริง โดยที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าสามารถหาได้จากฐานข้อมูลสมาชิกของบริษัทผู้ประกอบ การหรือแบบสำรวจต่างๆที่ได้จัดทำขึ้น ซึ่งปัจจุบันการหาข้อมูลประวัติของผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร สำคัญที่ว่าผู้ประกอบการต้องเลือกอีเมลล์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพียง เท่านั้นเอง และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและผู้ประกอบการห้ามทำเป็นอันขาดก็คือการส่งอีเมล์ ในลักษณะทิ้งระเบิดเพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นรำคาญแล้ว อีเมล์ของท่านยังถูกแจ้งเป็นสแปมอีกต่างหาก ซึ่งต้องใช้เวลานานมากกว่าจะหลุดจากแบล็กลิสต์ดังกล่าวได้
ใส่หัวข้อเรื่องที่น่าสนใจจากผู้ส่งที่น่าเชื่อถือ
สิ่งที่เป็นตัวตัดสินอย่างหนึ่งว่าลูกค้าจะเปิดอ่านอีเมล์ของคุณหรือไม่ นั่นก็คือการใส่หัวข้อเรื่องและผู้ส่ง เพราะโดยปกติผู้บริโภคจะสนใจเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองเท่านั้น หากเรื่องไหนไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีความสนใจก็ลืมไปได้เลยที่พวกเขาจะมาเปิด อ่าน ดังนั้นการตั้งชื่อหัวข้อเรื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยหากผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่านมีชื่อเสียงก็ขอแนะนำให้ใส่ชื่อกำกับลงไป ในหัวข้อด้วย เช่น ชุดผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อความขาวบริสุทธิ์จากชาเนลได้มาถึงแล้ว เป็นต้น
เล่นคำกับแคมเปญให้น่าดึงดูด
การสร้างจุดเด่นให้กับตัวข้อความเนื้อหาในอีเมลล์จัดเป็นสิ่งเร้าที่ ประสบความสำเร็จมาก เพราะสามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าได้โดยทันที เช่น น้ำหอมลาฟลอร่า ลด 50% หมู่บ้านนิสรากร เริ่มต้นที่7ล้าน เป็นต้น การเล่นคำตัวอักษรให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าปกตินี้จะช่วยทำให้ลูกค้ามองเห็นถึง สิ่งพิเศษที่ผู้ประกอบการต้องการจะนำเสนอออกมาได้อย่างโดดเด่นและโดยทันที จึงเหมาะกับการขายสินค้าที่ต้องการสร้างยอดขายอย่างรวดเร็ว จัดองค์ประกอบการนำเสนอให้มีสเน่ห์ ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่อยากอ่านข้อมูลเป็นจำนวนมากๆอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้มีแต่ภาพประกอบและให้ข้อมูลน้อยเกินไป อีเมล์ดังกล่าวก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการโน้มน้าวการตัดสินใจของ ลูกค้า ดังนั้นผู้ประกอบการต้องออกแบบจัดองค์ประกอบในอีเมล์ทั้งในส่วนของเนื้อหา และภาพประกอบให้สามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัวมากที่สุด โดยเน้นที่ความสะอาดตาและรูปแบบลักษณะที่สามารถอ่านได้ง่ายเป็นหลัก พยายามออกแบบโดยไม่ต้องกดเลื่อนหน้าจอลงมา อีเมล์ที่ดีต้องสามารถทำให้ลูกค้าเข้าใจความหมายได้ด้วยการคลิ๊กเปิดอ่าน เพียงแค่ครั้งเดียวโดยไม่ต้องใช้เม้าท์คลิ๊กเลื่อนหน้าจอลงไปอ่านข้อความ หรือดูภาพประกอบด้านล่างอีก เพราะอาจจะทำให้เสียโอกาส หากลูกค้าไม่เลื่อนลงมาดู
ช่องทางการติดต่อกลับคือสิ่งที่ไม่ควรขาด
มีข้อผิดพลาดที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็ได้เกิดขึ้น แล้วสำหรับการใช้อีเมล์ทำธุรกิจ นั่นก็คือ การลืมให้ข้อมูลรายละเอียดในการติดต่อกลับ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีอยู่บ้างเหมือนกันประเภทที่ว่าองค์ประกอบทุกอย่างครบ ถ้วนจนสามารถทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจอยากได้สินค้าขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ต้องมาสะดุดตรงที่ว่าหาข้อมูลในส่วนของการติดต่อกลับไม่เจอจึงต้องพลาด โอกาสในการขายของไป ซึ่งถึงแม้ข้อมูลการติดต่อจะแจ้งให้ลูกค้าทราบอยู่แล้วในส่วนของรายละเอียด ผู้ส่งอีเมล์แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดลงในเนื้อหาภายในอีเมล์ด้วย
เลือกเวลาที่เหมาะสมในการส่ง
ถึงแม้อีเมล์จะมีความสะดวกสบายในการส่งข้อความที่สามารถส่งได้ทุกที่และ ที่สำคัญคือทุกเวลา แต่นั่นเป็นเพียงแค่ในมุมมองจากฝ่ายของผู้ส่งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงผู้รับไม่ได้มีความพร้อมที่จะรับและเปิดอีเมลล์อ่านตลอด เวลาเหมือนผู้ส่ง ดังนั้นเวลาจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเอาใจใส่ โดยจากการประมวลและสอบถามผู้เชี่ยวชาญในการทำ E-mail Marketing แล้วพบว่าช่วงเวลาที่ควรทำการหลีกเลี่ยงการส่งอีเมลล์ไปให้ผู้บริโภคมากที่ สุด คือ วันจันทร์ในช่วงเช้าเพราะจะมีจดหมายเข้ามาในกล่อง inbox เป็นจำนวนมากและเป็นช่วงเวลาแรกของการเปิดทำงานอีกครั้งหลังจากวันหยุดจึง เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนที่มีการติดต่อกันเรื่องงานวุ่นวายมากจนลูกค้าไม่มี เวลาอ่านอีเมล์ของท่านอย่างแน่นอน และอีกช่วงเวลาหนึ่งคือตั้งแต่เวลาบ่ายวันศุกร์ยาวจนไปถึงวันหยุดเสาร์และ อาทิตย์ก็ไม่ควรส่งโดยเด็ดขาด เพราะช่วงเวลาดังกล่าวลูกค้าของผู้ประกอบการจะเลิกเช็คอีเมลล์และเตรียมตัว เดินทางกลับบ้านหรือไปต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนแล้ว
จัดทำ A/B Split Test
การทดสอบด้วยวิธีการ A/B Split Test ถือว่าทำได้ง่ายมากที่สุด โดยวิธีการคือให้ผู้ประกอบการสร้างอีเมล์ในหัวข้อเรื่องเดียวกันออกมา 2 ชุดให้มีความแตกต่างกันโดยยึดหลักการออกแบบตามที่ได้เสนอไปแล้วด้านบน จากนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบและคัดเลือกรูปแบบอีเมล์ที่ผู้ประกอบการเห็นว่า เหมาะสมมากที่สุด แล้วจึงนำอีเมล์ดังกล่าวเป็นต้นฉบับส่งไปให้ลูกค้าต่อไปเป็นอันเสร็จครบถ้วน ในทุกขั้นตอน
การส่งเสริมการทำธุรกิจผ่าน E – mail Marketing เป็นตัวขับเคลื่อนในยุคปัจจุบันต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเริ่มจะมีภาพ ลักษณ์ในมุมลบออกมาให้เห็นกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากความน่าเชื่อถือบวกกับผู้ประกอบการนำอีเมล์มาใช้ อย่างขาดศิลปะ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเสียใหม่โดยประยุกต์การใช้อี เมลล์ในการทำธุรกิจให้มีศิลปะมากขึ้นในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ขายของแบบ ฮาร์ดเซลล์จนเกินไป จึงจะทำให้อีเมล์สามารถช่วยสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจได้และพัฒนาเป็นช่อง ทางนำพาเงินเข้าสู่กระเป๋าของผู้ประกอบการในที่สุด
ต้องรู้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่ชัดเจนก่อน
ถ้าจะใช้อีเมล์ในการทำธุรกิจให้ประสบผลสำเร็จ ผู้ประกอบการต้องรู้กลุ่มผู้บริโภคเป้าหมายที่ชัดเจนของตนเองเสียก่อน เพราะจะช่วยทำให้ผู้ประกอบการสามารถสื่อสารได้ตรงกับกลุ่มลูกค้าของตนเองมาก ที่สุด ซึ่งจะทำให้ได้รับปฎิกิริยาตอบกลับมาในเวลาที่รวดเร็วจนนำไปสู่การตัดสินใจ ซื้อสินค้าในขั้นตอนสุดท้ายและจะถือว่าเป็นการปิดการขายโดยสมบูรณ์แบบอย่าง แท้จริง โดยที่อยู่อีเมล์ของลูกค้าสามารถหาได้จากฐานข้อมูลสมาชิกของบริษัทผู้ประกอบ การหรือแบบสำรวจต่างๆที่ได้จัดทำขึ้น ซึ่งปัจจุบันการหาข้อมูลประวัติของผู้บริโภคไม่ใช่เรื่องที่ยากอะไร สำคัญที่ว่าผู้ประกอบการต้องเลือกอีเมลล์ให้ตรงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายเพียง เท่านั้นเอง และสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงและผู้ประกอบการห้ามทำเป็นอันขาดก็คือการส่งอีเมล์ ในลักษณะทิ้งระเบิดเพราะนอกจากจะทำให้คนอื่นรำคาญแล้ว อีเมล์ของท่านยังถูกแจ้งเป็นสแปมอีกต่างหาก ซึ่งต้องใช้เวลานานมากกว่าจะหลุดจากแบล็กลิสต์ดังกล่าวได้
ใส่หัวข้อเรื่องที่น่าสนใจจากผู้ส่งที่น่าเชื่อถือ
สิ่งที่เป็นตัวตัดสินอย่างหนึ่งว่าลูกค้าจะเปิดอ่านอีเมล์ของคุณหรือไม่ นั่นก็คือการใส่หัวข้อเรื่องและผู้ส่ง เพราะโดยปกติผู้บริโภคจะสนใจเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับตนเองเท่านั้น หากเรื่องไหนไม่เกี่ยวข้องหรือไม่มีความสนใจก็ลืมไปได้เลยที่พวกเขาจะมาเปิด อ่าน ดังนั้นการตั้งชื่อหัวข้อเรื่องจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก โดยหากผลิตภัณฑ์หรือบริการของท่านมีชื่อเสียงก็ขอแนะนำให้ใส่ชื่อกำกับลงไป ในหัวข้อด้วย เช่น ชุดผลิตภัณฑ์ความงามเพื่อความขาวบริสุทธิ์จากชาเนลได้มาถึงแล้ว เป็นต้น
เล่นคำกับแคมเปญให้น่าดึงดูด
การสร้างจุดเด่นให้กับตัวข้อความเนื้อหาในอีเมลล์จัดเป็นสิ่งเร้าที่ ประสบความสำเร็จมาก เพราะสามารถเรียกความสนใจจากลูกค้าได้โดยทันที เช่น น้ำหอมลาฟลอร่า ลด 50% หมู่บ้านนิสรากร เริ่มต้นที่7ล้าน เป็นต้น การเล่นคำตัวอักษรให้มีขนาดที่ใหญ่กว่าปกตินี้จะช่วยทำให้ลูกค้ามองเห็นถึง สิ่งพิเศษที่ผู้ประกอบการต้องการจะนำเสนอออกมาได้อย่างโดดเด่นและโดยทันที จึงเหมาะกับการขายสินค้าที่ต้องการสร้างยอดขายอย่างรวดเร็ว จัดองค์ประกอบการนำเสนอให้มีสเน่ห์ ลูกค้าส่วนใหญ่มักจะไม่อยากอ่านข้อมูลเป็นจำนวนมากๆอยู่แล้ว แต่ถ้าจะให้มีแต่ภาพประกอบและให้ข้อมูลน้อยเกินไป อีเมล์ดังกล่าวก็แทบจะไม่มีประโยชน์อะไรเลยในการโน้มน้าวการตัดสินใจของ ลูกค้า ดังนั้นผู้ประกอบการต้องออกแบบจัดองค์ประกอบในอีเมล์ทั้งในส่วนของเนื้อหา และภาพประกอบให้สามารถไปด้วยกันได้อย่างลงตัวมากที่สุด โดยเน้นที่ความสะอาดตาและรูปแบบลักษณะที่สามารถอ่านได้ง่ายเป็นหลัก พยายามออกแบบโดยไม่ต้องกดเลื่อนหน้าจอลงมา อีเมล์ที่ดีต้องสามารถทำให้ลูกค้าเข้าใจความหมายได้ด้วยการคลิ๊กเปิดอ่าน เพียงแค่ครั้งเดียวโดยไม่ต้องใช้เม้าท์คลิ๊กเลื่อนหน้าจอลงไปอ่านข้อความ หรือดูภาพประกอบด้านล่างอีก เพราะอาจจะทำให้เสียโอกาส หากลูกค้าไม่เลื่อนลงมาดู
ช่องทางการติดต่อกลับคือสิ่งที่ไม่ควรขาด
มีข้อผิดพลาดที่ไม่น่าเชื่อเหมือนกันว่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็ได้เกิดขึ้น แล้วสำหรับการใช้อีเมล์ทำธุรกิจ นั่นก็คือ การลืมให้ข้อมูลรายละเอียดในการติดต่อกลับ ซึ่งต้องยอมรับว่ามีอยู่บ้างเหมือนกันประเภทที่ว่าองค์ประกอบทุกอย่างครบ ถ้วนจนสามารถทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจอยากได้สินค้าขึ้นมาจริงๆ แต่ก็ต้องมาสะดุดตรงที่ว่าหาข้อมูลในส่วนของการติดต่อกลับไม่เจอจึงต้องพลาด โอกาสในการขายของไป ซึ่งถึงแม้ข้อมูลการติดต่อจะแจ้งให้ลูกค้าทราบอยู่แล้วในส่วนของรายละเอียด ผู้ส่งอีเมล์แต่ก็ต้องไม่ลืมที่จะใส่รายละเอียดลงในเนื้อหาภายในอีเมล์ด้วย
เลือกเวลาที่เหมาะสมในการส่ง
ถึงแม้อีเมล์จะมีความสะดวกสบายในการส่งข้อความที่สามารถส่งได้ทุกที่และ ที่สำคัญคือทุกเวลา แต่นั่นเป็นเพียงแค่ในมุมมองจากฝ่ายของผู้ส่งเท่านั้น เพราะในความเป็นจริงผู้รับไม่ได้มีความพร้อมที่จะรับและเปิดอีเมลล์อ่านตลอด เวลาเหมือนผู้ส่ง ดังนั้นเวลาจึงเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญมากที่ผู้ประกอบการทุกคนควรเอาใจใส่ โดยจากการประมวลและสอบถามผู้เชี่ยวชาญในการทำ E-mail Marketing แล้วพบว่าช่วงเวลาที่ควรทำการหลีกเลี่ยงการส่งอีเมลล์ไปให้ผู้บริโภคมากที่ สุด คือ วันจันทร์ในช่วงเช้าเพราะจะมีจดหมายเข้ามาในกล่อง inbox เป็นจำนวนมากและเป็นช่วงเวลาแรกของการเปิดทำงานอีกครั้งหลังจากวันหยุดจึง เป็นช่วงชั่วโมงเร่งด่วนที่มีการติดต่อกันเรื่องงานวุ่นวายมากจนลูกค้าไม่มี เวลาอ่านอีเมล์ของท่านอย่างแน่นอน และอีกช่วงเวลาหนึ่งคือตั้งแต่เวลาบ่ายวันศุกร์ยาวจนไปถึงวันหยุดเสาร์และ อาทิตย์ก็ไม่ควรส่งโดยเด็ดขาด เพราะช่วงเวลาดังกล่าวลูกค้าของผู้ประกอบการจะเลิกเช็คอีเมลล์และเตรียมตัว เดินทางกลับบ้านหรือไปต่างจังหวัดเพื่อพักผ่อนแล้ว
จัดทำ A/B Split Test
การทดสอบด้วยวิธีการ A/B Split Test ถือว่าทำได้ง่ายมากที่สุด โดยวิธีการคือให้ผู้ประกอบการสร้างอีเมล์ในหัวข้อเรื่องเดียวกันออกมา 2 ชุดให้มีความแตกต่างกันโดยยึดหลักการออกแบบตามที่ได้เสนอไปแล้วด้านบน จากนั้นจึงนำมาเปรียบเทียบและคัดเลือกรูปแบบอีเมล์ที่ผู้ประกอบการเห็นว่า เหมาะสมมากที่สุด แล้วจึงนำอีเมล์ดังกล่าวเป็นต้นฉบับส่งไปให้ลูกค้าต่อไปเป็นอันเสร็จครบถ้วน ในทุกขั้นตอน
การส่งเสริมการทำธุรกิจผ่าน E – mail Marketing เป็นตัวขับเคลื่อนในยุคปัจจุบันต้องยอมรับความเป็นจริงว่าเริ่มจะมีภาพ ลักษณ์ในมุมลบออกมาให้เห็นกันมากขึ้น ส่วนหนึ่งมีสาเหตุมาจากความน่าเชื่อถือบวกกับผู้ประกอบการนำอีเมล์มาใช้ อย่างขาดศิลปะ ดังนั้นผู้ประกอบการต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเสียใหม่โดยประยุกต์การใช้อี เมลล์ในการทำธุรกิจให้มีศิลปะมากขึ้นในขณะเดียวกันก็ต้องไม่ขายของแบบ ฮาร์ดเซลล์จนเกินไป จึงจะทำให้อีเมล์สามารถช่วยสร้างความสำเร็จให้กับธุรกิจได้และพัฒนาเป็นช่อง ทางนำพาเงินเข้าสู่กระเป๋าของผู้ประกอบการในที่สุด